โดย กระจกเงา
คมชัดลึก : “จึงหมายว่าจะแกล้งแปลงอินทรีย์ เป็นกุมภีล์ลงไปในอยุธยา จะทำเสียให้วุ่นขุ่นทั้งกรุง เอาให้ยุ่งถึงสมเด็จพระพันวษา”...
สถานการณ์บ้านเมืองในยามนี้ทำให้นึกถึงเถรขวาด ตัวละครในวรรณคดีเรื่องขุนช้างขุนแผนที่ แปลงกายเป็นจระเข้ออกอาละวาดไล่งับกัดคนในเมืองหลวงกรุงศรีอยุธยาให้วุ่นวายไปทั้งเมือง
เถรขวาดเป็นพระระดับพระสังฆราชาประจำเมืองเชียงใหม่ เคยถูกพลายชุมพลลูกชายคนหนึ่ง ของขุนแผนเอาดาบฟันแสกหน้า ถึงวันหนึ่งส่องกระจกเห็นรอยแผลที่หน้าผากก็ให้แค้นเคืองคิดเอาคืน
เถรขวาดจึงวางแผนดังคำกลอนข้างบนนั่น คือแปลงร่างเป็นจระเข้หมายล่อพลายชุมพลให้ออกมาสู้กับตน ทั้งที่เถรขวาดตอนนั้นอายุปาเข้าไปกว่า ๘๐ ปีแล้ว
ก่อนจากเมืองเชียงใหม่ลงมากรุงศรีอยุธยาได้มีผู้ตักเตือนเถรเฒ่าว่าแก่แล้วอยู่กับบ้านสบายๆ จะดีกว่า อย่าได้ไปออกสนามรบรนหาที่ตายเลย แต่เถรขวาดก็ไม่เชื่อเพราะเป็นเฒ่าเถรดื้อรั้นโดยนิสัยอยู่แล้ว
เถรขวาดนั้นจะกลายร่างแปลงพันธุ์เป็นสัตว์อะไรก็ได้แล้วแต่นึกสนุก เช่นแปลงเป็นอีแร้งบินจาก เหนือลงมาที่อ่างทองก่อนกลายเป็นจระเข้ยักษ์เขี้ยวโง้งลงแม่น้ำเจ้าพระยา เที่ยวไล่ล่มจมเรือชาวบ้าน และไล่กัดกินคนดะเรื่อยลงมาจนถึงกรุงศรีอยุธยาในที่สุด
แม้ในงานบุญการกุศล ขณะที่ชาวบ้านเล่นเพลงลอยเรือฉลองพระกันอยู่ที่ อ.ป่าโมก จระเข้เถรขวาดก็ไม่ละเว้นออกอาละวาดไล่งับกัดคน ในขณะที่จระเข้เจ้าถิ่นก็พากันเกรงกลัวหนีหายไปสิ้น จระเข้เถรขวาดจึงสามารถทำลายล้างได้อย่างสนุกยิ่งตามอำเภอใจตน
แถมในวันว่างยังคืนร่างกลับเป็นเถร ออกบิณฑบาตให้ชาวบ้านทำบุญใส่บาตรให้อีกด้วย ริยำถึง ขนาดนั้น
จระเข้เถรขวาดได้เข้ามาแผลงฤทธิ์อาละวาดถึงกรุงศรีอยุธยาในแม่น้ำบริเวณโรงเก็บเรือหลวง จนร้อนถึงสมเด็จพระพันวษาเจ้า ต้องส่งพลายชุมพลซึ่งเป็นหมอจระเข้ออกไปปราบ
ฉากที่ต่อสู้กันระหว่างเถรเฒ่ากับคนหนุ่มรูปงามอย่างพลายชุมพลจึงได้เริ่มต้นขึ้นตรงที่บริเวณ แม่น้ำใจกลางเมืองกรุงศรีอยุธยานี้ ผลก็คือคนแก่ต้องพ่ายแพ้ให้แก่คนหนุ่ม ต้องถูกจับมัดไว้และต้อง กลายร่างเป็นเถรร้ายประจานให้ชาวบ้านเห็นในตอนจบ
เถรขวาดถูกประหารชีวิตแถมยังถูกด่าว่าเป็น “ทุด อ้ายแก่โกโรก...” ต้องโทษมหันต์อันธพาล โดยถูกพลายชุมพลคนหนุ่มตัดหัวทิ้งที่ตะแลงแกงใจกลางเมืองนั่นเอง
เถรขวาดมีลูกศิษย์ชื่อเณรจิ๋ว แต่ไม่เกี่ยวกันนะครับ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น